
รองนายกรัฐมนตรีและประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ต่างแสดงความยินดีที่ได้พบปะกันในวันนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะหารือถึงแนวทางในการร่วมมือกันระหว่างไทยและญี่ปุ่นในอนาคตข้างหน้า และระบุอีกว่าหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดันและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ดำเนินกิจกรรมในไทยมายาวนานกว่า 60 ปี ปัจจุบันหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ มีสมาชิกมากกว่า 1,700 บริษัท ซึ่งนับเป็นหอการค้าญี่ปุ่นในต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค รองจากหอการค้าญี่ปุ่น-เซี่ยงไฮ้ และแนวโน้มของสมาชิกก็เพิ่มมากขึ้นทุกปี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบริษัทญี่ปุ่นที่มีต่อประเทศไทย ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯกล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการลงทุนในสาธารณูปโภคของรัฐบาลไทยเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นชื่นชมอย่างมาก เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อไทยเองแล้ว ระบบสาธารณูปโภคที่ดียังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทญี่ปุ่นมาลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังแสดงความสนใจในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development) ของรัฐบาลด้วย ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น รวมถึงจะเป็นแหล่งผลิตและขนส่งสินค้าซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV ได้อีกด้วย