เวียดนามหวั่นปีนี้ค้าข้าวลำบาก

เวียดนามหวั่น ปี57 ค้าข้าวลำบาก ผลมาจากการจัดหาที่มีมากเกินความต้องการ

การส่งออกข้าวของเวียดนามในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากต่อไปอีกปีหนึ่ง ผลจากการจัดหาที่มีมากเกินความต้องการ และการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้น

เลขาธิการสมาคมอาหารเวียดนาม หรือ วีเอฟเอ "นายฮุน มินห์ หู" ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว เวียดนามมีการส่งออกข้าวเพียง 6.68 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2,890 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2555 แล้ว คิดเป็นการลดลงในแง่ปริมาณถึง 13.45% และลดลงในแง่มูลค่า 16.12%

ราคาข้าวโดยเฉลี่ยเมื่อปี 2556 อยู่ที่ตันละ 433.07 ดอลลาร์ ลดลง 13.79 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งนายหู ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว มีการจัดหาจนล้นตลาดโลก และความต้องการในตลาดดั้งเดิมจำนวนหนึ่งร่วงลง โดยอินโดนีเซียไม่มีการซื้อข้าวแต่อย่างใด ขณะที่ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ก็ลดปริมาณนำเข้า

อย่างไรก็ดี การขายข้าวยังได้แรงชดเชยบางส่วน จากการส่งออกผ่านทางชายแดนเวียดนาม-จีน ที่เพิ่มสูงขึ้น

กระนั้นก็ตาม สถานการณ์ข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า การส่งออกข้าวของเวียดนามในปีนี้ ส่อเค้าเผชิญกับปัญหาต่างๆ เหมือนกับเมื่อปีที่แล้ว เพราะการจัดหาในตลาดโลกยังทรงตัวในระดับสูง ทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีรายงานจากกลุ่มประเทศนำเข้าข้าว ถึงการมีผลผลิตในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความต้องการนำเข้าลงมา

ขณะที่ประธานวีเอฟเอ "นายเจือง ถั่นห์ ฟง" ชี้ว่า ปัจจัยลบอีกอย่างหนึ่งสำหรับการส่งออกข้าวเวียดนาม คือ การที่รัฐบาลไทยมีแนวโน้มที่จะดำเนินความพยายามอย่างต่อเนื่องในการระบายข้าวออกมาในปีนี้ ทำให้เกิดความท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ส่งออกเวียดนาม

ส่วนนายหู มองว่า อินเดีย ที่ปัจจุบันครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลก อาจจะเพิ่มปริมาณการส่งออกจากระดับ 9.6 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 10 ล้านตันในปีนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งออกข้าวบาสมาติ ข้าวชื่อดังของประเทศ ข้าวนึ่ง และข้าวหัก เช่นเดียวกับปากีสถาน ที่คาดว่า จะยังมีปริมาณการส่งออกมากถึง 3 ล้านตัน

"เวียดนามควรเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก ไทย ในด้านการส่งออกข้าวขาว และข้าวหอมมะลิ"

ทั้งนี้ แม้ความต้องการข้าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะลดลง แต่ภูมิภาคนี้ ยังคงเป็นตลาดค้าข้าวรายสำคัฐ และมีการทำสัญญสการขายแบบรัฐต่อรัฐ เป็นจำนวนมากด้วย

แต่นายหู แสดงความเชื่อมั่นว่า ข้าวเวียดนามที่มีราคาแข่งขันได้ และเป็นข้าวใหม่ จะทำให้เวียดนามมีความสามารถทางการแข่งขันมากขึ้น เมื่อความต้องการในตลาดเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายดวง เฝือง เถ่า รองผู้อำนวยการกรมส่งออก และนำเข้า กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า เวียดนาม เรียกร้องให้บรรดาผู้ส่งออกเพิ่มการส่งเสริมการค้าในตลาดต่างประเทศ ขณะที่คณะเจรจาการค้า ก็เรียกร้องให้กระทรวงเกษตร และพัฒนาชนบทเวียดนาม ปรับโครงสร้างภาคเกษตรกรรม เพื่อลดต้นทุนในการผลิต และปลูกข้าวน้อยลง แต่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น

นายเฝืองบอกด้วยว่า ภาคเกษตรกรรมควรพัฒนาเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง ปลูกพืชหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาด และพุ่งเป้าไปในเรื่องการสร้างแบรนด์ สำหรับข้าวเวียดนามให้มากขึ้น



เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก bangkokbiznews.com