ลบ
แก้ไข

ปี 2557 เป็นปีแห่งความท้าทายอุตฯไทย จะแก้จุดอ่อน ที่ปล่อยให้อินโดนีเซียและเวียดนาม แซงหน้าไปแล้วหลายขุม ได้หรือไม่ ยังต้องลุ้น
ปี 2557 นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมของไทย เนื่องจากการแข่งขันจากประเทศอื่นๆ ในเออีซีได้ทวีความเข้มข้นมากขึ้นโดยเฉพาะอินโดนีเซียและเวียดนามที่มีประชากรจำนวนมากและเสถียรภาพทางการเมือง กำลังมาแรงและเริ่มแซงหน้าไทยแล้วในหลายอุตสาหกรรม แม้ในอดีตทั้ง 2 ประเทศจุดอ่อนด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงดีขึ้นอย่างรีบเร่ง
รถยนต์ ไทยเป็นฐานอันดับ 1 ของเออีซี โดยในปี 2556 มีปริมาณการประกอบรถยนต์มากถึง 2.5 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของยอดประกอบรถยนต์ทั้งหมดของเออีซี รองลงมา คือ อินโดนีเซีย ประมาณ 1.2 ล้านคัน และมาเลเซีย ประมาณ 6 แสนคัน
จากการที่อินโดนีเซียมีประชากรมากถึง 240 ล้านคน อินโดนีเซียจะแซงหน้าไทยกลายเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเออีซีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประกอบกับปัจจุบันมีการลงทุนสร้างฐานผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมากในอินโดนีเซีย จะทำให้อินโดนีเซียแข่งขันกับไทยอย่างเข้มข้นเพื่อแย่งเป็นฐานผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดเออีซีในอีกประมาณ 5 - 10 ปีข้างหน้า
รถจักรยานยนต์ อินโดนีเซียเป็นผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในเออีซีและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยในปี 2556 มียอดจำหน่ายมากถึง7.8 ล้านคัน นำหน้าประเทศอื่นๆ อย่างไม่เห็นฝุ่น รองลงมา คือ เวียดนามและไทย ซึ่งแย่งตำแหน่งอันดับ 2 ของเออีซี โดยมีปริมาณการผลิตใกล้เคียงกัน คือมากกว่า 3 ล้านคัน เล็กน้อย
กลั่นน้ำมัน สิงคโปร์มีกำลังผลิตการกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดในเออีซี ขนาด 1,370,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ไทยมีกำลังผลิตการกลั่นน้ำมันรองลงมาอันดับ 2 ขนาด 1,072,000 บาร์เรล/วัน อันดับ 3 คือ อินโดนีเซีย กำลังประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วัน และมีแผนจะก่อสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่ขนาด 3 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้แซงไทยขึ้นเป็นฐานกลั่นน้ำมันอันดับ 2 ของเออีซี สำหรับมาเลเซียเป็นอันดับ 4 กำลังผลิต 635,300 บาร์เรล/วัน แต่มีแผนลงทุนเพิ่มกำลังผลิตอีก 300,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 935,300 บาร์เรล/วัน
เหล็ก เดิมไทยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมีโรงงานเหล็กขั้นกลางน้ำหลายแห่ง แต่เมื่อปลายปี 2556 อินโดนีเซียได้เปิดโรงถลุงเหล็กแบบครบวงจรตามมาตรฐานโลกแห่งแรกในเออีซี กำลังผลิต 3 ล้านตัน/ปี ทำให้แซงหน้าไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 สำหรับในอนาคตเมื่อโครงการโรงถลุงเหล็กเฟสแรกของกลุ่มฟอร์โมซาในเวียดนามก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2549 ขนาดกำลังผลิต 7 ล้านตัน/ปี จะทำให้เวียดนามแซงหน้าอินโดนีเซียขึ้นเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเออีซี ยิ่งไปกว่านั้น หากโครงการโรงถลุงเหล็กของเวียดนามเปิดดำเนินการเต็มโครงการขนาดกำลังผลิต 22.5 ล้านตัน/ปี จะทำให้เวียดนามเป็นฐานผลิตเหล็กใหญ่อันดับที่ 11 ของโลก
ปูนซีเมนต์ ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ในเวียดนามได้เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซี โดยในปี 2556 มีปริมาณผลิตประมาณ 60 ล้านตัน จำแนกเป็นการจำหน่ายในประเทศ 47 ล้านตัน และส่งออก 13 ล้านตัน รองลงมา คือ อินโดนีเซีย คาดว่าจะมีปริมาณการผลิตประมาณ 58ล้านตัน โดยเป็นการจำหน่ายในประเทศแทบทั้งหมด ส่งออกน้อยมาก ขณะที่ไทยตามมาอันดับ 3 คาดว่ามีปริมาณการผลิตประมาณ 45 ล้านตัน จำแนกเป็นจำหน่ายในประเทศ 35 ล้านตัน และส่งออก 10 ล้านตัน
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เดิมไทยเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซี มีการผลิตครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่ปัจจุบันเวียดนามประสบผลสำเร็จในขั้นปลายน้ำ คือ เครื่องนุ่งห่ม โดยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก และเริ่มรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมขั้นต้นน้ำและกลางน้ำ คือ ผลิตเส้นใยสังเคราะห์ การปั่นด้ายและทอผ้า โดยในปี 2556 เวียดนามส่งออกสินค้าหมวดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มประมาณ 6 แสนล้านบาท เปรียบเทียบกับไทยส่งออกประมาณ 2.3 แสนล้านบาท
โทรศัพท์มือถือ เวียดนามเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซีและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2556 มีมูลค่าส่งออกมากถึง 6 แสนล้านบาท/ปีโดยเป็นฐานการผลิตสำคัญของซัมซุงและโนเกีย ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าการส่งออกของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคต เนื่องจากมีโครงการลงทุนอีกหลายโครงการในเวียดนามที่อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก bangkokbiznews.com
ปีแห่งความท้าทายอุตสาหกรรมไทย

ปี 2557 เป็นปีแห่งความท้าทายอุตฯไทย จะแก้จุดอ่อน ที่ปล่อยให้อินโดนีเซียและเวียดนาม แซงหน้าไปแล้วหลายขุม ได้หรือไม่ ยังต้องลุ้น
ปี 2557 นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมของไทย เนื่องจากการแข่งขันจากประเทศอื่นๆ ในเออีซีได้ทวีความเข้มข้นมากขึ้นโดยเฉพาะอินโดนีเซียและเวียดนามที่มีประชากรจำนวนมากและเสถียรภาพทางการเมือง กำลังมาแรงและเริ่มแซงหน้าไทยแล้วในหลายอุตสาหกรรม แม้ในอดีตทั้ง 2 ประเทศจุดอ่อนด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงดีขึ้นอย่างรีบเร่ง
รถยนต์ ไทยเป็นฐานอันดับ 1 ของเออีซี โดยในปี 2556 มีปริมาณการประกอบรถยนต์มากถึง 2.5 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของยอดประกอบรถยนต์ทั้งหมดของเออีซี รองลงมา คือ อินโดนีเซีย ประมาณ 1.2 ล้านคัน และมาเลเซีย ประมาณ 6 แสนคัน
จากการที่อินโดนีเซียมีประชากรมากถึง 240 ล้านคน อินโดนีเซียจะแซงหน้าไทยกลายเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเออีซีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประกอบกับปัจจุบันมีการลงทุนสร้างฐานผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมากในอินโดนีเซีย จะทำให้อินโดนีเซียแข่งขันกับไทยอย่างเข้มข้นเพื่อแย่งเป็นฐานผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดเออีซีในอีกประมาณ 5 - 10 ปีข้างหน้า
รถจักรยานยนต์ อินโดนีเซียเป็นผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในเออีซีและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยในปี 2556 มียอดจำหน่ายมากถึง7.8 ล้านคัน นำหน้าประเทศอื่นๆ อย่างไม่เห็นฝุ่น รองลงมา คือ เวียดนามและไทย ซึ่งแย่งตำแหน่งอันดับ 2 ของเออีซี โดยมีปริมาณการผลิตใกล้เคียงกัน คือมากกว่า 3 ล้านคัน เล็กน้อย
กลั่นน้ำมัน สิงคโปร์มีกำลังผลิตการกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดในเออีซี ขนาด 1,370,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ไทยมีกำลังผลิตการกลั่นน้ำมันรองลงมาอันดับ 2 ขนาด 1,072,000 บาร์เรล/วัน อันดับ 3 คือ อินโดนีเซีย กำลังประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วัน และมีแผนจะก่อสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่ขนาด 3 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้แซงไทยขึ้นเป็นฐานกลั่นน้ำมันอันดับ 2 ของเออีซี สำหรับมาเลเซียเป็นอันดับ 4 กำลังผลิต 635,300 บาร์เรล/วัน แต่มีแผนลงทุนเพิ่มกำลังผลิตอีก 300,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 935,300 บาร์เรล/วัน
เหล็ก เดิมไทยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมีโรงงานเหล็กขั้นกลางน้ำหลายแห่ง แต่เมื่อปลายปี 2556 อินโดนีเซียได้เปิดโรงถลุงเหล็กแบบครบวงจรตามมาตรฐานโลกแห่งแรกในเออีซี กำลังผลิต 3 ล้านตัน/ปี ทำให้แซงหน้าไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 สำหรับในอนาคตเมื่อโครงการโรงถลุงเหล็กเฟสแรกของกลุ่มฟอร์โมซาในเวียดนามก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2549 ขนาดกำลังผลิต 7 ล้านตัน/ปี จะทำให้เวียดนามแซงหน้าอินโดนีเซียขึ้นเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในเออีซี ยิ่งไปกว่านั้น หากโครงการโรงถลุงเหล็กของเวียดนามเปิดดำเนินการเต็มโครงการขนาดกำลังผลิต 22.5 ล้านตัน/ปี จะทำให้เวียดนามเป็นฐานผลิตเหล็กใหญ่อันดับที่ 11 ของโลก
ปูนซีเมนต์ ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ในเวียดนามได้เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซี โดยในปี 2556 มีปริมาณผลิตประมาณ 60 ล้านตัน จำแนกเป็นการจำหน่ายในประเทศ 47 ล้านตัน และส่งออก 13 ล้านตัน รองลงมา คือ อินโดนีเซีย คาดว่าจะมีปริมาณการผลิตประมาณ 58ล้านตัน โดยเป็นการจำหน่ายในประเทศแทบทั้งหมด ส่งออกน้อยมาก ขณะที่ไทยตามมาอันดับ 3 คาดว่ามีปริมาณการผลิตประมาณ 45 ล้านตัน จำแนกเป็นจำหน่ายในประเทศ 35 ล้านตัน และส่งออก 10 ล้านตัน
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เดิมไทยเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซี มีการผลิตครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่ปัจจุบันเวียดนามประสบผลสำเร็จในขั้นปลายน้ำ คือ เครื่องนุ่งห่ม โดยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก และเริ่มรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมขั้นต้นน้ำและกลางน้ำ คือ ผลิตเส้นใยสังเคราะห์ การปั่นด้ายและทอผ้า โดยในปี 2556 เวียดนามส่งออกสินค้าหมวดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มประมาณ 6 แสนล้านบาท เปรียบเทียบกับไทยส่งออกประมาณ 2.3 แสนล้านบาท
โทรศัพท์มือถือ เวียดนามเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดในเออีซีและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2556 มีมูลค่าส่งออกมากถึง 6 แสนล้านบาท/ปีโดยเป็นฐานการผลิตสำคัญของซัมซุงและโนเกีย ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าการส่งออกของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอนาคต เนื่องจากมีโครงการลงทุนอีกหลายโครงการในเวียดนามที่อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก bangkokbiznews.com
เกี่ยวกับประเทศ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
อินโดฯเล็งนำเข้าข้าวอินเดีย-เวียดนาม ชี้ข้าวไทยแพงเกินไป อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศของอินโดนีเซีย นายเด็ดดี้ ซาเลห์ เปิดเผยว่า อินโดนีเซียมีแผนที่จะนำเข้าข้าว 100,000 ตันจากอินเดียผ่านทางการประมูล และนำเข้าข้าว 300,000...by Editor Bow
-
อุตสาหกรรมรถยนต์ในเวียดนามกำลังเผชิญต่อความเสี่ยง หลังโตโยต้าประกาศว่าอาจหยุดประกอบรถในเวียดนาม จากกรณีการปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในอนาคต การประกาศของโตโยต้าเมื่อช่วงต้นเดือน ที่...by Editor
-
หลังจากรัฐบาลประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่หนึ่งไปแล้ว ในระยะต่อไปจะพัฒนา "เขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยว" เต็มรูปแบบตั้งเป้าจะพัฒนา จ.ภูเก็ต เป็นเมืองปลอดภาษีอย่างเป็นระบบ เพราะมีความพร้อมทั้งด้านท่าเรือ และสนามบิน...by dogTech
-
ธุรกิจการบินในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มที่จะขยายตัว เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ ทำให้อุตสาหกรรมการบินของไทยต้องเตรียมที่จะตอบสนองความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ...by dogTech
เรื่องมาใหม่
คำฮิต