เวียดนามขึ้นภาษีบุหรี่-แอลกอฮอล์ เพื่อลดการบริโภค

อัตราการบริโภคเบียร์ในประเทศมากเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ก็สูงมากเช่นกัน ทางกระทรวงการคลังเวียดนามได้เสนอรัฐปรับเพิ่มภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ตั้งแต่กลางปี 2558 เป็นต้นไป หวังลดปริมาณการบริโภคในประเทศ

เวียดนามวางแผนที่จะปรับเพิ่มภาษีการบริโภคพิเศษ (SCT) ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ขึ้นจากเดิมอีก 15-30% ช่วงกลางปี 2558 ที่เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามลดอัตราการบริโภค สื่อท้องถิ่นของเวียดนามรายงานอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง
       
       กระทรวงการคลัง ได้เสนอเรื่องต่อรัฐบาลที่จะปรับเพิ่มภาษีบุหรี่เป็น 75% จากปัจจุบัน 65% ในช่วงกลางปี 2558 และขยับเพิ่มอีก 10% ในต้นปี 2561 ซึ่งตามการระบุของกระทรวงการคลังนั้น อัตราภาษีที่สูงขึ้นคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้รัฐราว 138.8 ล้านดอลลาร์ ในปี 2559 และ 365 ล้านดอลลาร์ ในปี 2561
       
       สำหรับภาษี SCT เครื่องดื่มเบียร์และสุรา จะปรับเพิ่มเป็น 65% จากเดิม 50% คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น 369.6 ล้านดอลลาร์ และ 18.4 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
       
       เวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราการบริโภคเบียร์ต่อหัวมากที่สุดเป็น อันดับ 3 ในเอเชีย รองจากจีนและญี่ปุ่นเท่านั้น โดยในปี 2556 เวียดนามมีอัตราการบริโภคเบียร์ถึง 3,000 ล้านลิตร หรือ 32 ลิตรต่อคน
       
       ส่วนอัตราการสูบบุหรี่ในเวียดนามนั้นก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน รายงานระบุว่า เวียดนามมีผู้สูบบุหรี่ประมาณ 15 ล้านคน และอีกหลายล้านคนเป็นผู้สูบบุหรี่มือสอง (การสูบบุหรี่ทางอ้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ) กระทรวงฯ รายงานว่า บุหรี่ได้คร่าชีวิตชาวเวียดนามไปทั้งสิ้น 40,000 คน ในปี 2551 และคาดการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากบุหรี่จะเพิ่มสูงเป็น 50,000 คน ในปี 2566
       
       ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสุราและเบียร์ในประเทศเติบโตขึ้นอย่างมากเนื่องจากเศรษฐกิจทั่ว โลกถดถอย และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ
       



เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก manager.co.th
       กระทรวงฯ ระบุว่า ในปี 2557 นี้ คาดว่าจะมีการผลิตเบียร์ราว 4,700 ล้านลิตร และสุราอีกประมาณ 540 ล้านลิตร.