ลบ แก้ไข

นโยบายการจำกัดจำนวนรถในสิงคโปร์

นโยบายการจำกัดจำนวนรถในส

       การจราจรที่คับคั่งและติดขัดในกรุงเทพมหานครนั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ในขณะที่สิงคโปร์ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนที่มีขนาดเล็ก เล็กกว่ากรุงเทพมหานครเสียอีก มีจำนวนรถเพิ่มขื้นเช่นกัน แต่รัฐบาลของสิงคโปร์โดยหน่วยงานที่มีชื่อว่า Land Transport Authority มีนโยบายและวิธีการควบคุมปริมาณรถและจัดการการจราจรในพื้นที่ที่จำกัดนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ระบบยานพาหนะแบบโควต้า หรือ Vehicle Quota System และภาษีการเป็นเจ้าของรถยนต์ หรือ Vehicle ownership tax

        ระบบยานพาหนะแบบโควต้า หรือ Vehicle Quota System นั้นมีเป้าหมายที่จะจำกัดอัตราการเพิ่มของยานพาหนะระหว่างกุมภาพันธ์ ปี 2013ถึง มกราคมปี 2015ให้อยู่ในระดับ ร้อยละ 0.5 ต่อปี การจำกัดการเพิ่มของรถใหม่นั้นเกี่ยวข้องกับการขอทะเบียนรถ หรือ Certificate of Entitlement (COE)ที่จะแสดงสิทธิการเป็นเจ้าของรถนั้น ผู้ที่จะซื้อรถจะต้องประมูลซื้อ COE โดยที่ COE มีจำนวนจำกัดภายใต้การควบคุมของรัฐ ผู้ถือ COE มีสิทธิ์ครอบครองยานยนต์ได้เป็นเวลา 10 ปี เมื่อครบเวลาดังกล่าวจะต้องทำลายยานยนต์หรือ ส่งออกยานยนต์ หรือต่ออายุ COE ไปอีกหนึ่งครั้งมีกำหนด 5 หรือ 10 ปี (ต่ออายุได้เพียงครั้งเดียว) เจ้า COE ถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทดังนี้
       
       ประเภทถ่ายโอนมิได้:
       • ประเภท A: รถยนต์ (1,600 ซีซีหรือต่ำกว่า) และแท็กซี่
       • ประเภท B: รถยนต์ (ตั้งแต่ 1,601 ซีซี ขึ้นไป)
       • ประเภท D: จักรยานยนต์
       
       ประเภทถ่ายโอนได้:
       • ประเภท C: รถขนส่งสินค้าและรถโดยสารขนาดใหญ่
       • ประเภท E: Open Category (ใช้กับยานยนต์ประเภทใดก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่มักนำไปใช้กับรถยนต์)

        การจัดสรรและกำหนดโควตาป้ายทะเบียนใหม่ให้รถประเภทต่างๆจะคำนวณจากจำนวนรถที่ทะเบียนหมดอายุแล้ว จำนวนรถที่อนุญาตให้เพิ่มได้ในแต่ละปี และการปรับเปลี่ยนของจำนวนรถประเภทอื่นๆ เช่น แท็กซี่ และรถที่ถูกทำลายหรือส่งออกไป ซึ่งการคำนวณโควต้าจะมีการดำเนินการทุกสามเดือน โดยผู้ที่จะได้โควตาจะต้องทำการประมูลป้ายทะเบียนรถเพื่อนำมาสวมกับรถที่ซื้อไว้ ราคาประมูล COE จะแปรผันตามอุปสงค์ ซึ่งอาจจะแพงมาก    นอกจากนี้ การจ่ายค่าป้ายทะเบียนแล้ว เจ้าของยานพาหนะยังต้องรับภาระการจ่ายภาษีการใช้รถ (Road Tax) ที่กำหนดช่วงเวลาที่สามารถนำรถออกมาวิ่งได้อีกด้วย เช่น ช่วงเวลาเร่งรีบ ช่วงวันหยุด ซึ่งส่งผลให้มีการใช้รถส่วนตัวลดลง จึงเห็นว่าสิงคโปร์สามารถบังคับใช้นโยบายที่ทำให้การจราจรในประเทศมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงรักษาสภาพแวดล้อมไม่ให้เกิดมลพิษ ประเทศไทยน่าจะศึกษาไว้และนำมาใช้จัดการระบบการจราจรของเราได้




เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก aseanthai.net
 

เกี่ยวกับประเทศ

 

Editor Bow
ชม 5,627 ครั้ง
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน Developed By Upbean ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการให้บริการ