ลบ
แก้ไข
เหตุผลหลักที่ทำให้บรรดาเศรษฐีทั้งใหม่และเก่าของอินโดนีเซียเลือกที่จะออกรถส่วนตัวมาขับ มาจากระบบขนส่งมวลชนที่ล้าหลังสวนทางกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองหลวงแห่งนี้ นอกจากรถบัสขนาดเล็กที่ดูเก่าคร่ำคร่าพร้อมที่จะแยกออกเป็นส่วน ๆ ได้ทุกเมื่อแล้ว ระบบขนส่งมวลชนที่ดูดีกว่าก็คือ รถเมล์แบบ
เดียวกับบีอาร์ทีของกรุงเทพมหานคร แต่ก็มีวิ่งบนถนนสายหลักเพียงไม่กี่เส้นเท่านั้น
คนใช้รถใช้ถนนของจาการ์ตาจึงหาทาง ออกสำหรับการจราจรที่ติดขัดด้วยการใช้สื่อออนไลน์ เพราะแต่ละคนที่ต้องใช้เวลาอยู่บนรถไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ชั่วโมง กับการจราจรที่ติดขัดถึงขนาดที่เรียกได้ว่าคันเร่งไม่ต้องทำงานแค่คอยเหยียบเบรกอย่างเดียว มักฆ่าเวลาด้วยการเล่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ โดยข่าวสารการจราจรที่ถูกโพสต์ไว้นั้นจะช่วยให้วางแผนหลีกเลี่ยงเส้นทางติดขัดได้ในระดับหนึ่ง
4 ปีก่อนเว็บไซต์ lewatmana.com ได้ถือกำเนิดขึ้น ทั้งเว็บไซต์และทวิตเตอร์ของเว็บนี้เกิดขึ้นพร้อมกันและทำหน้าที่ในการแจ้งข่าวจราจรแบบเรียลไทม์
“ชาวอินโดนีเซียจะอัพเดทสถานะของตัวเองไว้ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ตลอดเวลา เราจึงมาคิดกันว่า ทำไมเราไม่แชร์ปัญหาจราจรเหล่านั้นให้ทุกคนได้รับรู้ด้วย” เฮนดรี่ โซลิสต์โย ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จราจรของจาการ์ตา บอกถึงที่มาที่ไป
เลวัตมานะ (Lewatmana) ในภาษาอินโด นีเซีย หมายถึง ทางไหน เว็บไซต์นี้ไม่ได้บอกถึงสถานะการจราจรในแต่ละเส้นทางเท่านั้น แต่ยังมีการปักธงบอกจุดที่กำลังเกิดปัญหาอย่างน้ำท่วม หรือการชุมนุมประท้วงที่มีอยู่บ่อยครั้งในจาการ์ตา
การรายงานจราจรแบบเรียลไทม์นี้อาศัยกล้องซีซีทีวี 100 เครื่อง ที่กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของเมือง ซึ่งจะแสดงผลมายังหน้าจอ โดยมีจะมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าติดตามสภาพการจราจรของถนนแต่ละสาย ก่อนจะถ่ายภาพและรายงานให้สมาชิกได้รับทราบ
แต่ละเดือนทวิตเตอร์ของเลวัตมานะจะทวีตแจ้งข่าวสารจราจรถึง 14,000 ครั้ง ไปยังสมาชิกผู้ติดตามที่มีอยู่กว่า 200,000 คน
ขณะที่ทวิตเตอร์เนเบนเกอร์ (Nebenger) ชื่อที่หมายถึง คนโบกรถขออาศัยร่วมทาง เป็นอีกแอคเคาท์ที่ได้รับความนิยม
“เนเบนเกอร์ทำหน้าที่เสมือนสถานีรถโดยสาร มันจะบอกให้รู้ว่าเราจะสามารถขออาศัยติดรถใครไปโรงเรียนหรือไปทำงานได้บ้าง” แอนเดรียส เอดิทยา สวาติ ผู้ก่อตั้งแอคเคาท์วัย 27 ปี ระบุ
มันเป็นช่องทางการเดินทางอันล้ำค่าสำหรับคนที่จะเป็นผู้โดยสาร แต่เนเบนเกอร์ก็เพิ่งมีผู้ติดตามเพียง 4,000 คนเท่านั้น โดยมีผู้โดยสารราว 400 คน ใช้ช่องทางนี้ให้เป็นประโยชน์ในแต่ละวัน และหลายคนก็พร้อมที่จะแบ่งปันที่นั่งให้กับผู้โดยสารแปลกหน้าที่จะเดินทางไปเส้นทางเดียวกัน โดยจะบอกกล่าวกันล่วงหน้า 2 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง
รัตนา มายาซาริ ซึ่งทำงานอยู่ใจกลางกรุงจาการ์ตา หนึ่งในคนที่แชร์ที่นั่งบนรถให้กับเพื่อนร่วมทางจากบ้านของเธอที่อยู่ทางตอนใต้ของจาการ์ตา บอกว่า แต่ก่อนเธอจะร้องเพลงหรือบ่นกับตัวเองเมื่อเจอปัญหาจราจรติดขัด แต่เดี๋ยวนี้เวลาชั่วโมงครึ่งบนรถเธอมีเพื่อนร่วมทางอีกคนที่จะมานั่งคุยกันแทน
ขณะที่การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของรัฐบาลดูเหมือนจะล่าช้าไปถึง 10 ปี เพราะรถไฟฟ้าสายแรกและโมโนเรลกำลังจะตอกเสาเข็ม ระหว่างนี้ประชาชนชาวอินโดนีเซียก็ยังคงต้องพึ่งพาสังคมออนไลน์เพื่อจัดระบบจราจรให้กับตัวเองไปพลาง ๆ ก่อน
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจากaseanthai.net
โซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อการจราจร "จาการ์ตา"
เหตุผลหลักที่ทำให้บรรดาเศรษฐีทั้งใหม่และเก่าของอินโดนีเซียเลือกที่จะออกรถส่วนตัวมาขับ มาจากระบบขนส่งมวลชนที่ล้าหลังสวนทางกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองหลวงแห่งนี้ นอกจากรถบัสขนาดเล็กที่ดูเก่าคร่ำคร่าพร้อมที่จะแยกออกเป็นส่วน ๆ ได้ทุกเมื่อแล้ว ระบบขนส่งมวลชนที่ดูดีกว่าก็คือ รถเมล์แบบ
เดียวกับบีอาร์ทีของกรุงเทพมหานคร แต่ก็มีวิ่งบนถนนสายหลักเพียงไม่กี่เส้นเท่านั้น
คนใช้รถใช้ถนนของจาการ์ตาจึงหาทาง ออกสำหรับการจราจรที่ติดขัดด้วยการใช้สื่อออนไลน์ เพราะแต่ละคนที่ต้องใช้เวลาอยู่บนรถไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ชั่วโมง กับการจราจรที่ติดขัดถึงขนาดที่เรียกได้ว่าคันเร่งไม่ต้องทำงานแค่คอยเหยียบเบรกอย่างเดียว มักฆ่าเวลาด้วยการเล่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ โดยข่าวสารการจราจรที่ถูกโพสต์ไว้นั้นจะช่วยให้วางแผนหลีกเลี่ยงเส้นทางติดขัดได้ในระดับหนึ่ง
4 ปีก่อนเว็บไซต์ lewatmana.com ได้ถือกำเนิดขึ้น ทั้งเว็บไซต์และทวิตเตอร์ของเว็บนี้เกิดขึ้นพร้อมกันและทำหน้าที่ในการแจ้งข่าวจราจรแบบเรียลไทม์
“ชาวอินโดนีเซียจะอัพเดทสถานะของตัวเองไว้ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ตลอดเวลา เราจึงมาคิดกันว่า ทำไมเราไม่แชร์ปัญหาจราจรเหล่านั้นให้ทุกคนได้รับรู้ด้วย” เฮนดรี่ โซลิสต์โย ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จราจรของจาการ์ตา บอกถึงที่มาที่ไป
เลวัตมานะ (Lewatmana) ในภาษาอินโด นีเซีย หมายถึง ทางไหน เว็บไซต์นี้ไม่ได้บอกถึงสถานะการจราจรในแต่ละเส้นทางเท่านั้น แต่ยังมีการปักธงบอกจุดที่กำลังเกิดปัญหาอย่างน้ำท่วม หรือการชุมนุมประท้วงที่มีอยู่บ่อยครั้งในจาการ์ตา
การรายงานจราจรแบบเรียลไทม์นี้อาศัยกล้องซีซีทีวี 100 เครื่อง ที่กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของเมือง ซึ่งจะแสดงผลมายังหน้าจอ โดยมีจะมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าติดตามสภาพการจราจรของถนนแต่ละสาย ก่อนจะถ่ายภาพและรายงานให้สมาชิกได้รับทราบ
แต่ละเดือนทวิตเตอร์ของเลวัตมานะจะทวีตแจ้งข่าวสารจราจรถึง 14,000 ครั้ง ไปยังสมาชิกผู้ติดตามที่มีอยู่กว่า 200,000 คน
ขณะที่ทวิตเตอร์เนเบนเกอร์ (Nebenger) ชื่อที่หมายถึง คนโบกรถขออาศัยร่วมทาง เป็นอีกแอคเคาท์ที่ได้รับความนิยม
“เนเบนเกอร์ทำหน้าที่เสมือนสถานีรถโดยสาร มันจะบอกให้รู้ว่าเราจะสามารถขออาศัยติดรถใครไปโรงเรียนหรือไปทำงานได้บ้าง” แอนเดรียส เอดิทยา สวาติ ผู้ก่อตั้งแอคเคาท์วัย 27 ปี ระบุ
มันเป็นช่องทางการเดินทางอันล้ำค่าสำหรับคนที่จะเป็นผู้โดยสาร แต่เนเบนเกอร์ก็เพิ่งมีผู้ติดตามเพียง 4,000 คนเท่านั้น โดยมีผู้โดยสารราว 400 คน ใช้ช่องทางนี้ให้เป็นประโยชน์ในแต่ละวัน และหลายคนก็พร้อมที่จะแบ่งปันที่นั่งให้กับผู้โดยสารแปลกหน้าที่จะเดินทางไปเส้นทางเดียวกัน โดยจะบอกกล่าวกันล่วงหน้า 2 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง
รัตนา มายาซาริ ซึ่งทำงานอยู่ใจกลางกรุงจาการ์ตา หนึ่งในคนที่แชร์ที่นั่งบนรถให้กับเพื่อนร่วมทางจากบ้านของเธอที่อยู่ทางตอนใต้ของจาการ์ตา บอกว่า แต่ก่อนเธอจะร้องเพลงหรือบ่นกับตัวเองเมื่อเจอปัญหาจราจรติดขัด แต่เดี๋ยวนี้เวลาชั่วโมงครึ่งบนรถเธอมีเพื่อนร่วมทางอีกคนที่จะมานั่งคุยกันแทน
ขณะที่การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของรัฐบาลดูเหมือนจะล่าช้าไปถึง 10 ปี เพราะรถไฟฟ้าสายแรกและโมโนเรลกำลังจะตอกเสาเข็ม ระหว่างนี้ประชาชนชาวอินโดนีเซียก็ยังคงต้องพึ่งพาสังคมออนไลน์เพื่อจัดระบบจราจรให้กับตัวเองไปพลาง ๆ ก่อน
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจากaseanthai.net
เกี่ยวกับประเทศ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
การแต่งกายของแต่ละประเทศในอาเซียน เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสัญชาติในกลุ่ม ประชาคมอาเซียน เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com เนื้อหาอ้างอิงจาก วีดีโอ youtube :Animation Cartoon ASEAN ( Lesson 2 ASEAN Nationalities)...by Editor Bow
-
-
-
ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกอาเซียนและจำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการรวมภูมิภาคภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)...by dogTech
เรื่องมาใหม่
คำฮิต