ข้าวเวียดนามขายไม่ออก!!

         ชาวนาในเวียดนามกำลังประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ หลังจากที่เพิ่งผ่านพ้นฤดูเก็บเกี่ยวปลายปีที่แล้วมา โดยกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามประเมินว่า มีข้าวที่รอจำหน่ายอยู่มากถึง 4.3 ล้านตัน
        สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะภาคเอกชนเวียดนามในปีนี้ซื้อข้าวน้อยลง เนื่องจากไม่สามารถส่งออกข้าวไปต่างประเทศ พร้อมทั้งจับตาดูสถานการณ์ ที่มีรายงานว่าไทยกำลังจะระบายข้าวในสต๊อกออกไป จึงไม่อยากขายข้าวแข่งกับไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เช่นกัน ชาวนาคนหนึ่งในเวียดนามระบุกับหนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์ว่า ตนเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง และขายให้ได้เฉพาะผู้ซื้อรายย่อยเท่านั้น เพราะภาคเอกชนไม่แสดงความสนใจที่จะซื้อเลย โดยเมื่อช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวเวียดนามลดลงราว 300-450 บาทต่อ 1 ตัน อยู่ที่ราว 10,650-15,150 บาท
        ชาวนาเวียดนามจึงเริ่มเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเหวียน เตินสุง เจาะตลาดผู้บริโภคเพิ่ม ศึกษาการเปลี่ยนแปลงในตลาดค้าข้าวของโลก โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของประเทศคู่แข่งในการส่งออกข้าว เช่น ไทย และอินเดีย และประเทศที่นิยมนำเข้าสินค้าข้าวเช่น ฟิลิปปินส์และสหรัฐ ส่งเสริมให้ข้าวเวียดนามไปบุกตลาดจีนและเม็กซิโกเพิ่มด้วย โดยรัฐบาลสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ 14 แห่งของเวียดนามออกเงินกู้ให้ภาคเอกชน ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไปซื้อข้าวสำรองไว้ ตามโครงการชั่วคราวของรัฐบาลก่อน โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง
        ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ก็วางสถานะตัวเองว่าจะเป็นคู่แข่งกับไทย และเวียดนามในการส่งออกข้าวเช่นกัน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์เรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยลดต้นทุนการทำนา และเพิ่มความช่วยเหลือ หลังการเก็บเกี่ยว เพื่อที่จะได้แข่งขันกับประเทศอาเซียนเมื่อเข้าเป็น
เออีซี พัฒนาความพร้อมในเรื่องเครื่องมือ รวมทั้งลดค่าเช้าพื้นที่ ทำนา เพื่อลดต้นทุนการแข่งขัน ซึ่งจากการเปรียบเทียบสถิติ จากสถาบันวิจัยข้าวฟิลิปปินส์ระบุว่า ต้นทุนการผลิตข้าวต่อตันของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 6,660 บาทต่อตัน ถือเป็น 2 เท่าของต้นทุนในเวียดนามที่ 3,330 บาทต่อตัน ขณะที่ในไทยต้นทุนอยู่ที่ 5,340 บาทต่อตัน
        เมื่อหันมามองข้าวไทย ที่ต้นทุนการผลิตสูงกว่า แต่ยังราคาต่ำกว่าข้าวเวียดนาม หากยังไม่มีการส่งเสริมการแข่งขัน และประสบปัญหาจำนำข้าว เห็นทีจะเป็นปมระดับชาติต่อไป



เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก ข่าวสด