ลบ
แก้ไข
สำหรับเหวียนดี่งเทียน (Nguyen Dinh Thien) ท้องนาของครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจของเขา เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อ 10 ปีก่อน สอบแอดมิชชันเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ แต่ด้วยความเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ห่วงใยบิดามารดากับฝูงควาย เขาจึงตัดสินใจหันเหชีวิตหันหลังให้แก่เมืองใหญ่เพื่อใช้ชีวิตกับทุ่งนาถิ่น เกิด วันนี้อายุ 27 จากเด็กเลี้ยงควายกลายเป็นเศรษฐีย่อมๆ ในคอมมูนขึ้นมาได้ก็เพราะควายแท้ๆ
วันนี้ เทียน เป็นเจ้าของฝูงควาย 60 ตัว จากทุ่งนาใน อ.ห่าโดง รอบนอกกรุงฮานอย เขาออกหาซื้อควายอยู่ตลอดเวลามาเกือบ 10 ปีแล้ว ซื้อมาเลี้ยงเพาะพันธุ์แล้วก็ขายไปขายทั้งควายโต ขายลูกควาย ตราบใดที่ควายยังเป็นแรงงานสำคัญในภารเกษตรตลาดควายของเขาก็ไม่เคยวาย
หลายคนอาจคิดไม่ถึง ด้วยความเพียรพยายาม และตีตลาดแตกเมื่อปี 2552 เจ้าตัวเริ่มมีรายปีละ 400 ล้านด่ง พอสิ้นปี 2556 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านด่ง และด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 21,000 ด่ง/ดอลลาร์ หากเทียบเป็นเงินไทยดอลลาร์ละ 33 บาท ก็เป็นอันว่าเมื่อปีที่แล้วหนุ่มโสดคนนี้มีเงินเข้ากระเป๋ากว่า 940,000 บาท คิดเป็นรายเดือนๆ ละเกือบ 80,000 บาท
ต้นทุนของเขาต่ำมาก เพราะควายกินหญ้าตามธรรมชาติในผืนนาอันอุดมของครอบครัว เขาลงทุนครั้งใหญ่แค่ครั้งเดียวคือ ตอนที่สร้างโรงเรือนให้ควายอาศัย รายจ่ายอื่นๆ ก็มีเพียงจัดซื้ออาหารเสริมอันแทบจะไม่จำเป็น หมั่นดูแลสุขภาพของเหล่าควาย ฉีดวัคซีนให้ตัวเล็กตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อำเภอ ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมายอะไร เพราะว่าควายไม่ใช่สัตว์ขี้โรค สำนักข่าวซเวินเหวียด หรือ “ประชาชนเวียดนาม” รายงานในเว็บไซต์
ควาย 60 ตัว ถ่ายมูลออกมามากมาย และกลายเป็นของล้ำค่า ครอบครัวนำไปหว่านลงในนาข้าวเป็นปุ๋ยธรรมชาติทำให้ข้าวงอกงามออกรวงเป็น เมล็ดข้าวที่อ่อนนุ่มมีกลิ่นหอมหวนกรุ่น ปุ๋ยคอกของเขายังมีเหลือขายได้อีก ซึ่งเทียนกล่าวว่า ยังไม่ได้นับเงินรายได้ส่วนนี้
“ผมพูดกับพ่อ และพ่อก็ตกลง ผมจึงไม่เรียนต่อ” นายเทียนย้อนอดีตกับซเวินเหวียด
เริ่มจากควายของครอบครัวที่มีเป็นทุนอยู่ 10 ตัว ขายไปบ้างแล้วนำเงินไปซื้อควายหนุ่มในจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่มากมายในภาค เหนือรอบๆ กรุงฮานอยนำมาเลี้ยงดู แล้วขายไปทำกำไร เพียงไม่นานจาก 10 ตัว จำนวนก็เพิ่มเป็น 20 ตัว เป็น 30, 40 ซื้อๆ ขายๆ จนกระทั่งวันนี้ก็ยังมีหมุนเข้ามาและเวียนออกไปไม่ขาดสาย
นักเลี้ยงควายผู้มีอันจะกินกล่าวว่า ทุ่งนาของครอบครัวมีหลายสิบไร่ขนานไปกับแม่น้ำแดง แต่นั่นไม่พอสำหรับเลี้ยงควายทั้งหมด ไม่กี่ปีมานี้ เทียน ขยายกิจการออกไปยังชายป่าติดกับ จ.หว่าบิ่ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงซื้อทุ่งหญ้าที่นั่นพร้อมกับสร้างโรงเรือน หลังใหม่ ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีเงินมีทอง มีรถบรรทุก มีเครื่องจักรการเกษตรเขายังใช้ชีวิตประจำวันกับการเลี้ยง และดูแลควายอยู่เหมือนเดิม
ถึงแม้จะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่หนุ่มคนนี้ก็ขวนขวายเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้เพื่องานในอาชีพ ไม่มีความรู้จะไม่สามารถทำธุรกิจกับสัตว์เลี้ยงที่เขาโปรดปรานได้ และตอนนี้เทียน ก็กำลังคิดแผนธุรกิจคู่ขนานในไลน์เดียวกันเช่น ผลิตหญ้าสำหรับวัว-ควายออกขายให้ชาวนาในย่านนี้เป็นต้น
ชายหนุ่มบอกว่าไม่หวงวิชาและพร้อมถ่ายทอดความรู้การทำมาหากินกับควายให้ผู้ที่สนใจทุกคน.
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก manager.co.th
เลี้ยงควายก็รวยได้มีรายได้ปีละเกือบ 1 ล้านบาท
สำหรับเหวียนดี่งเทียน (Nguyen Dinh Thien) ท้องนาของครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจของเขา เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อ 10 ปีก่อน สอบแอดมิชชันเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ แต่ด้วยความเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ห่วงใยบิดามารดากับฝูงควาย เขาจึงตัดสินใจหันเหชีวิตหันหลังให้แก่เมืองใหญ่เพื่อใช้ชีวิตกับทุ่งนาถิ่น เกิด วันนี้อายุ 27 จากเด็กเลี้ยงควายกลายเป็นเศรษฐีย่อมๆ ในคอมมูนขึ้นมาได้ก็เพราะควายแท้ๆ
วันนี้ เทียน เป็นเจ้าของฝูงควาย 60 ตัว จากทุ่งนาใน อ.ห่าโดง รอบนอกกรุงฮานอย เขาออกหาซื้อควายอยู่ตลอดเวลามาเกือบ 10 ปีแล้ว ซื้อมาเลี้ยงเพาะพันธุ์แล้วก็ขายไปขายทั้งควายโต ขายลูกควาย ตราบใดที่ควายยังเป็นแรงงานสำคัญในภารเกษตรตลาดควายของเขาก็ไม่เคยวาย
หลายคนอาจคิดไม่ถึง ด้วยความเพียรพยายาม และตีตลาดแตกเมื่อปี 2552 เจ้าตัวเริ่มมีรายปีละ 400 ล้านด่ง พอสิ้นปี 2556 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านด่ง และด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 21,000 ด่ง/ดอลลาร์ หากเทียบเป็นเงินไทยดอลลาร์ละ 33 บาท ก็เป็นอันว่าเมื่อปีที่แล้วหนุ่มโสดคนนี้มีเงินเข้ากระเป๋ากว่า 940,000 บาท คิดเป็นรายเดือนๆ ละเกือบ 80,000 บาท
ต้นทุนของเขาต่ำมาก เพราะควายกินหญ้าตามธรรมชาติในผืนนาอันอุดมของครอบครัว เขาลงทุนครั้งใหญ่แค่ครั้งเดียวคือ ตอนที่สร้างโรงเรือนให้ควายอาศัย รายจ่ายอื่นๆ ก็มีเพียงจัดซื้ออาหารเสริมอันแทบจะไม่จำเป็น หมั่นดูแลสุขภาพของเหล่าควาย ฉีดวัคซีนให้ตัวเล็กตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อำเภอ ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมายอะไร เพราะว่าควายไม่ใช่สัตว์ขี้โรค สำนักข่าวซเวินเหวียด หรือ “ประชาชนเวียดนาม” รายงานในเว็บไซต์
ควาย 60 ตัว ถ่ายมูลออกมามากมาย และกลายเป็นของล้ำค่า ครอบครัวนำไปหว่านลงในนาข้าวเป็นปุ๋ยธรรมชาติทำให้ข้าวงอกงามออกรวงเป็น เมล็ดข้าวที่อ่อนนุ่มมีกลิ่นหอมหวนกรุ่น ปุ๋ยคอกของเขายังมีเหลือขายได้อีก ซึ่งเทียนกล่าวว่า ยังไม่ได้นับเงินรายได้ส่วนนี้
“ผมพูดกับพ่อ และพ่อก็ตกลง ผมจึงไม่เรียนต่อ” นายเทียนย้อนอดีตกับซเวินเหวียด
เริ่มจากควายของครอบครัวที่มีเป็นทุนอยู่ 10 ตัว ขายไปบ้างแล้วนำเงินไปซื้อควายหนุ่มในจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่มากมายในภาค เหนือรอบๆ กรุงฮานอยนำมาเลี้ยงดู แล้วขายไปทำกำไร เพียงไม่นานจาก 10 ตัว จำนวนก็เพิ่มเป็น 20 ตัว เป็น 30, 40 ซื้อๆ ขายๆ จนกระทั่งวันนี้ก็ยังมีหมุนเข้ามาและเวียนออกไปไม่ขาดสาย
นักเลี้ยงควายผู้มีอันจะกินกล่าวว่า ทุ่งนาของครอบครัวมีหลายสิบไร่ขนานไปกับแม่น้ำแดง แต่นั่นไม่พอสำหรับเลี้ยงควายทั้งหมด ไม่กี่ปีมานี้ เทียน ขยายกิจการออกไปยังชายป่าติดกับ จ.หว่าบิ่ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงซื้อทุ่งหญ้าที่นั่นพร้อมกับสร้างโรงเรือน หลังใหม่ ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีเงินมีทอง มีรถบรรทุก มีเครื่องจักรการเกษตรเขายังใช้ชีวิตประจำวันกับการเลี้ยง และดูแลควายอยู่เหมือนเดิม
ถึงแม้จะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่หนุ่มคนนี้ก็ขวนขวายเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้เพื่องานในอาชีพ ไม่มีความรู้จะไม่สามารถทำธุรกิจกับสัตว์เลี้ยงที่เขาโปรดปรานได้ และตอนนี้เทียน ก็กำลังคิดแผนธุรกิจคู่ขนานในไลน์เดียวกันเช่น ผลิตหญ้าสำหรับวัว-ควายออกขายให้ชาวนาในย่านนี้เป็นต้น
ชายหนุ่มบอกว่าไม่หวงวิชาและพร้อมถ่ายทอดความรู้การทำมาหากินกับควายให้ผู้ที่สนใจทุกคน.
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก manager.co.th
เกี่ยวกับประเทศ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
นโยบายในการพัฒนาแรงงานของไทยกำลังเร่งการพัฒนาทักษะองการสำหรับตลาดแรงงานอิสระในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2015 โดยนักวิชาการกล่าวว่า ภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สมาชิกอาเซียนได้ตกลงที่จะเปิดตลาดแรงงานเสรี...by dogTech
-
สวดมนต์ข้ามปี ในต่างจังหวัด (คาดว่าจะจัด) ภาคกลาง - วัดป่าปฐมชัย ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม - สำนักปฎิบัติ แสงธรรมส่องชีวิต ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี - วัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยา - วัดปัญญานันทาราม อ.คลองหลวง...by Editor Bow
-
ผศ. ดร. พรรณชฎา ศิริวรรณบุศย์ ในปีหน้านี้ประชาคมอาเซียนจะเปิดอย่างเป็นทางการ ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่เตรียมความพร้อมเข้าสู่การเปิดประชาคมอาเซียน หรือ ASEAN Community ได้อย่างมีประสิทธิภาพ...by Editor Bow
-
สมาชิกสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (เอแบค) เสนอให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอแนะต่อกลุ่มผู้นําและรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก)...by Editor
เรื่องมาใหม่
คำฮิต