
ไทย : เกาะเต่า
ในเมืองไทยนั้นมีทะเลสวยๆ อยู่หลายแห่ง ทั้งทางภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ภาคใต้ฝั่งอันดามัน และหมู่เกาะต่างๆ อีกมากมาย หากจะตัดสินว่าที่ใดสวยที่สุดคงเป็นเรื่องยากไม่น้อย แต่วันนี้ขอนำเสนอ “เกาะเต่า” จ.สุราษฎร์ธานี เป็นตัวแทนของทะเลไทยแข่งกับทะเลแห่งอื่นๆ ในอาเซียน เพราะเกาะเต่าเพิ่งได้รับตำแหน่ง “1 ใน 10 เกาะยอดนิยมของโลก” และ “เกาะยอดนิยมแห่งเอเชีย” จากผลโหวตสุดยอดเกาะน่าเที่ยวประจำปี 2557 โดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์
เกาะเต่านั้นได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดในฝั่งอ่าวไทย ที่ได้ชื่อว่าเกาะเต่าเนื่องจากเกาะแห่งนี้เคยมีเต่ากระอยู่เป็นจำนวนมาก ชายหาดของเกาะเต่านั้นเป็นชายหาดลาดชันที่มีน้ำลึกใสสะอาด มีกองหินใต้น้ำหลายแห่ง และมีแนวปะการังสมบูรณ์รอบเกาะ มีปลาและสัตว์น้ำหลากหลายชนิด สามารถดำน้ำได้เกือบทุกฤดูกาล ยกเว้นช่วงมรสุมระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยว คือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน
นักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้ามาเกาะเต่าเพราะต้องการมาดำน้ำลึกชมความงามใต้ท้องทะเล บางคนที่ยังไม่เคยดำน้ำลึกก็สามารถมาเรียนดำน้ำที่เกาะเต่า เพราะที่นี่ถือเป็นจุดที่มีโรงเรียนสอนดำน้ำมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สามารถเรียนได้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง รวมทั้งมีแพกเกจทัวร์ดำน้ำดูปะการังหลากหลายแบบด้วยกัน โดยแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ ของเกาะเต่าก็มี “หาดทรายรี” ซึ่งเป็นชายหาดที่ยาวที่สุด มีทรายขาวและแนวปะการังที่ขนานกับชายหาด ปะการังส่วนใหญ่เป็นปะการังก้อน เหมาะสำหรับจะฝึกดำน้ำแบบ snorkeling และ scuba มี “อ่าวโฉลกบ้านเก่า” ที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส มีบรรยากาศสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน
ส่วนจุดดำน้ำลึกที่มีชื่อที่สุดก็คือที่ “กองหินชุมพร” มีลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ มีความลึกตั้งแต่ 12-32 เมตร มีดอกไม้ทะเล ปะการังดำ ปลาหูช้าง ปลาสาก ปลาเก๋าดอกหมากขนาดยักษ์ และฉลามวาฬ ที่แวะเวียนมาประจำ “กองตุ้งกู” ลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำ มีปะการังดำ ฝูงปลานานาชนิด และปลาเก๋าขนาดใหญ่ และ “กองหินวง” ก็เป็นกองหินใต้น้ำเช่นกัน มีปะการังอ่อนสีสันสวยงาม รวมทั้งแส้ทะเล หวีทะเล เป็นจำนวนมาก

มาเลเซีย : สิปาดัน
ทะเลของมาเลเซียที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีชื่อเสียงดังไปไกลระดับโลกก็คือ “เกาะสิปาดัน” ซึ่งอยู่ในเขตทะเลเซเลเบส (Celebes) ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเขตทะเลที่มีความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล มีปลามากกว่า 3,000 ชนิดและปะการังอีกนับร้อยชนิด
บนเกาะสิปาดันไม่มีรีสอร์ตให้บริการ เพราะรัฐบาลมาเลเซียประกาศให้รีสอร์ตต่างๆ ย้ายออกจากเกาะสิปาดันตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2547 เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และไม่อนุญาตให้พักค้างคืนบนเกาะ แต่สามารถพักบนเกาะใกล้เคียงและมาดำน้ำที่เกาะสิปาดันได้ตลอดปี
ตัวเกาะเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำ รอบๆ เกาะเป็นชายหาดขาวสะอาด แต่ห่างจากชายหาดออกมาราว 20-40 เมตร พื้นทะเลจะยุบตัวเป็นหน้าผาหักชันลึกลงไปกว่า 600 เมตร เกาะสิปาดันจึงเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักดำน้ำจากทั่วโลก โดยโลกใต้น้ำบริเวณเกาะสิปาดันนั้นอุดมสมบูรณ์ นักดำน้ำจะได้ชมฝูงปลาสาก ปลานกแก้วหัวโหนก ปลามง ปลาการ์ตูน ฯลฯ รวมไปถึงเต่าทะเลอย่างเต่าตนุและเต่ากระ อีกทั้งยังมีฉลามชุกชุม นอกจากนั้นก็ยังมีปะการังสารพัดสี ดอกไม้ทะเล และสรรพสิ่งใต้ทะเลรอให้ดำดิ่งลงไปค้นหา

พม่า : หาดงาปาลี
พม่านับเป็นประเทศที่ยังคงมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติแท้ๆ อีกมากมาย ทะเลของพม่าก็เช่นเดียวกัน ยังไม่มีนักท่องเที่ยวได้ไปเยือนมากนักแต่เชื่อว่าความสวยงามไม่เป็นรองใครแน่นอน ดูแต่ทะเลอันดามันบ้านเรายังสวยงามเสียขนาดนี้ แล้วทะเลเกาะแก่งฝั่งอันดามันของพม่าที่ไม่มีใครไปรบกวนจะสวยงามและอุดมสมบูรณ์สักแค่ไหน
แต่ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะหรือแหล่งดำน้ำทางฝั่งพม่ายังไม่มีรายละเอียดมากเท่าไรนัก วันนี้จึงขอแนะนำให้รู้จักกับชายหาดซึ่งเป็นแหล่งตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของพม่าคือ “หาดงาปาลี” (Ngapali) ในเขตปกครองของรัฐยะไข่ ทางทิศตะวันตกของประเทศ หาดงาปาลีมีความยาวราว 3 กม. มีทัศนียภาพที่งดงาม หาดทรายสีขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใส และมีโรงแรมและรีสอร์ตหลายแห่งให้บริการนักท่องเที่ยว
แต่ความน่าสนใจของหาดงาปาลีน่าจะอยู่ตรงที่ยังคงมีวิถีชีวิตของชาวประมงพม่าให้ได้สัมผัสกัน ในช่วงเช้าชาวบ้านจะนำปลาตัวเล็กตัวน้อยที่จับได้ออกมาวางตากที่ริมชายหาด โดยการปูฟางแห้งรองที่พื้นชายหาด ปูทับด้วยตาข่ายซึ่งตากปลาไว้ด้านบน เราจึงเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน เห็นวัวเทียมเกวียนบรรทุกฟางและบรรทุกคนอยู่ริมชายหาด เป็นภาพที่แปลกตาและหาไม่ได้จากที่ไหน

เวียดนาม : ฮาลองเบย์
"ฮาลองเบย์" หรืออ่าวฮาลอง เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออก 170 กิโลเมตร อ่าวแห่งนี้นอกจากจะมีทัศนียภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีความสำคัญและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเวียดนามเมื่อปี 2537 อีกด้วย
มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับอ่าวฮาลองว่า ในอดีตเคยมีมังกรบินร่อนลงมาสู่อ่าวแห่งนี้เมื่อครั้งดึกดำบรรพ์ และชื่อของฮาลองก็แปลได้ว่า “มังกรร่อนลง” นั่นเอง ในอ่าวฮาลองมีภูเขาหินปูนใหญ่น้อยจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล คล้ายกับเขาตาปูของอ่าวพังงาบ้านเรา นอกจากนั้นภูเขาหลายแห่งยังมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าวคือ ถ้ำเสาไม้ หรือ "กร็อตเดแมร์แวย์" (Grotte des Merveilles) ภายในมีหินงอกและหินย้อยขนาดใหญ่อยู่จำนวนมากงดงามยิ่งนัก

กัมพูชา : สีหนุวิลล์
สำหรับทะเลของประเทศกัมพูชาที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือทะเลที่เมือง “สีหนุวิลล์” ที่แต่เดิมเมืองท่าแห่งนี้รู้จักกันในนาม "เมืองกัมปงโสม" เป็นจังหวัดเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชา ก่อนเกิดสงครามกลางเมืองในกัมพูชา สีหนุวิลล์เคยเป็นเมืองรีสอร์ตสไตล์ฝรั่งเศสที่เหล่าคนดังและเศรษฐีนิยมมาพักผ่อน หลังจากนั้นเมืองแห่งนี้ถูกปล่อยปละละเลย ก่อนได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้ง
ทัศนียภาพของชายหาดของสีหนุวิลล์มีชายหาดกว้าง หาดทรายขาวน้ำทะเลสีเขียวใส บริเวณนี้มีชายหาดหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น หาดสุขา (Sokha) หาด Occheuteal หาด Serendipity หาด Independence หาดหิน Paradise เป็นต้น ชายหาดเหล่านี้มีโรงแรมที่พักให้เลือกทั้งแบบเกสต์เฮาส์และรีสอร์ตหรู และสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศชายหาด รวมถึงทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น ดำน้ำ ตกปลา พายเรือคายัค และล่องเรือได้เช่นกัน

ฟิลิปปินส์ : โบราเคย์
ฟิลิปปินส์ ประเทศที่เป็นหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะจำนวนทั้งสิ้น 7,107 เกาะ ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีหมู่เกาะและทะเลสวยๆ จำนวนนับไม่ถ้วน และเกาะโบราเคย์ หรือโบราไคย์ (Boracay Island) เป็นเกาะของฟิลิปปินส์ที่เลือกมานำเสนอ เกาะแห่งนี้เป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ไปทางทิศใต้ประมาณ 315 กม. แต่ขึ้นชื่อว่ามีชายหาดที่สวยงามและเป็นส่วนตัว โดยได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 เกาะยอดนิยมในเอเชียโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ และได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวอีกหลายรางวัล
ตัวเกาะโบราเคย์ประกอบด้วยหาดต่างๆ ที่มีทรายขาวสะอาดทอดยาวเรียงรายไปตามชายฝั่งของเกาะ ไม่ว่าจะเป็นหาดไวต์บีช (White Beach) ชายหาดที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของเกาะโบราเคย์ มีทรายขาวละเอียดราวผงแป้งทอดตัวยาวประมาณ 4 กม. และหาดไวต์บีช ยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของเกาะ โดยจะมีทั้งโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ มากมาย และส่วนของร้านค้าร้านอาหารอีกด้วย
นอกจากนั้นภายในเกาะยังมีถ้ำที่สวยงามรวมไปถึงป่าเขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของเหล่าสัตว์ท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมบนเกาะได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำ ดำน้ำ ขี่เจ็ตสกี ปีนเขา เดินป่า ปั่นจักรยานเสือภูเขา และการขี่ม้า เป็นต้น

อินโดนีเซีย - บูนาเคน
แม้เกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินโดนีเซียที่หลายๆ คนมักนึกถึงจะเป็นเกาะบาหลี แต่นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนบาหลีก็มักจะมุ่งเน้นที่การไปเที่ยวชมวัฒนธรรมและโบราณสถานต่างๆ เสียมากกว่า แต่หากต้องการเที่ยวทะเลสวยๆ ของอินโดนีเซียแล้วละก็ ขอแนะนำ “เกาะบูนาเคน” (Bunaken) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานทางทะเลบูนาเคน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะสุลาเวสี
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่เกาะบูนาเคนส่วนใหญ่มักตั้งใจมาดำน้ำลึกชมโลกใต้ทะเล โดยแหล่งดำน้ำจะมีลักษณะเป็นหน้าผาลาดชันลงไปในทะเล (Wall Dive) มีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจอย่าง ฉลามครีบขาว กระเบนราหู ฉลามหัวค้อน และปลาชนิดต่างๆ มากมายกว่า 70 สายพันธุ์ และช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปดำน้ำที่บูนาเคนก็คือ ช่วงเดือนเมษายน และพฤศจิกายน
สำหรับในประเทศ “บรูไน” ประเทศเล็กๆ บนเกาะบอร์เนียว แม้จะมีพื้นที่ติดทะเลแต่ก็ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่โดดเด่นนัก แต่จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการขุดเจาะน้ำมันดิบในทะเลเสียมากกว่า โดยชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวในบรูไนก็เช่น หาดตูตง ที่อยู่ระหว่างกรุงบันดาร์เสรีเบกาวันและเมืองซีเรีย เช่นเดียวกับ “สิงคโปร์” ที่แม้ภูมิประเทศจะเป็นเกาะ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และชายหาดตากอากาศส่วนใหญ่บนเกาะสิงคโปร์ก็มักเป็นชายหาดเทียม ที่นำทรายมาถมเพื่อสร้างเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวเสียมากกว่า ส่วนที่ “ลาว” นั้น เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเล
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก manager.co.th