ย่านเศรษฐกิจในกรุงมะนิลา นครหลวงของฟิลิปปินส์ประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติก ใส่ของและกล่องใส่อาหารที่ทำจากสไตโรโฟม โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามควบคุมจำนวนขยะซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมหนักขึ้นทั่วกรุงมะนิลา
หลังจากมีโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคำสั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่สำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของย่านมากาติได้เริ่มปรับร้านค้าและซูเปอร์มาร์เกตที่ให้ถุงพลาสติกกับลูกค้าเป็นเงิน 5,000 เปโซ (ราว 3,600 บาท)
มากาติ เป็นหนึ่งใน 17 เมืองหรือเขตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรุงมะนิลา ยังคงอนุญาตให้ใช้พลาสติกห่อหุ้มอาหาร แต่ห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ร้านค้าและร้านอาหารมักจะให้มากับสินค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงบรรจุภัณฑ์อาหารที่ทำจากสไตโรโฟมและถ้วยพลาสติก ทั้งนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษหรือไม่ใช้ถุงเลย โดยซูเปอร์มาเกตจะส่งเสริมให้ลูกค้านำถุงมาเอง
ผู้นำทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่สำรวจตลาดสาธารณะกล่าวว่า มีการต่อต้านคำสั่งห้ามดังกล่าวอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่คนยากจน หลายคนยังคงใช้ถุงพลาสติกโดยเฉพาะคนขายของตามข้างทาง แต่ผู้ที่ไม่พอใจคำสั่งห้ามนี้คือผู้บริโภคที่ซื้อปลาและไก่
เจ้าหน้าที่ในย่านมากาติระบุว่า มากาติเป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างประเทศหลายแห่ง บริษัทและธนาคารที่ใหญ่ที่สุด ห้างสรรพสินค้าหรูหราที่สุดและร้านอาหารราว 2,900 แห่ง และแม้ว่าจำนวนประชากรอย่างเป็นทางการจะมีเพียงกว่า 600,000 คน แต่ในเวลากลางวันที่ประชาชนเดินทางเข้ามาทำงานในเมืองนี้จะมีประชากรเพิ่มเป็น 3.7 ล้านคน การประกาศคำสั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกครั้งนี้จะครอบคลุมประชาชน 6.7 ล้านคนจากประชากรทั้งหมดของกรุงมะนิลาซึ่งมีอยู่ 13 ล้านคน
เจ้าหน้าที่ด้านโครงการของสำนักงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากาติกล่าวว่า การลดการใช้ถุงพลาสติกเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันไม่ให้ท่อน้ำในเมืองอุดตัน ซึ่งว่ากันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม หลังจากการทำความสะอาดท่อระบายน้ำทุก 2 เดือนพบว่าขยะส่วนใหญ่ที่อุดตันท่อน้ำคือพลาสติก.
เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก mcot.net