ลบ แก้ไข

'จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น'มุ่งสู่อาเซียนขยายอิทธิพล ส่งเสริมการค้า

  

 
        การสร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น ถือเป็นจุดสําคัญในการก้าวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางห่วงโซ่อุปทานโลก และทําให้อาเซียนดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งสิ่งจําเป็นที่อาเซียนต้องทําคือมองออกไปข้างนอกกลุ่มที่มากกว่า "เออีซี" 

        เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วม "การประชุมสุดยอดอาเซียน-
สาธารณรัฐเกาหลี" สมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 25 ปีณ นครปูซาน เกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 10-
12 ธันวาคม


        การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีหารือระหว่างผู้นําเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือ
อาเซียนและเกาหลีใต้ในอนาคต ตลอดจนประเด็นในภูมิภาคและระหว่างประเทศ อาทิภัยคุกคามรูปแบบใหม่
และการจัดการกับภัยพิบัติเป็นต้น โดยในการประชุมครั้งนี้จะเป็นการหารือด้วยวิสัยทัศน์ของหุ้นส่วนเชิง
ยุทธศาสตร์อาเซียน-เกาหลีใต้ภายใต้กรอบแนวคิด "สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ นํามาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และ
แบ่งปันความสุข"

       อาเซียนนับเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของเกาหลีใต้รองจากจีน มีมูลค่าการค้าประมาณ 135,000 ล้านดอลลาร์และ
การลงทุนจากเกาหลีใต้มาเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน คิดเป็นมูลค่าราว 3,800 ล้านดอลลาร์อีกทั้งปีที่ผ่านมายังมี
ชาวเกาหลีใต้ที่เดินทาง มาท่องเที่ยวในอาเซียนกว่า 6.5 ล้านคน โดยอาเซียนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับ ความ
นิยมสูงสุด ทั้งนี้อาเซียนและเกาหลีใต้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 150,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี
2558 และ 200,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2563


       หลังการประชุมสุดยอดอาเซียนเกาหลีใต้ยังมีหนึ่งการประชุมสําคัญส่งท้ายปี 2557 คือ การประชุมสุดยอด
อนุภูมิภาคลุ่ม แม่น้ําโขง ครั้งที่ 5 (จีเอ็มเอส) โดยไทยเป็น เจ้าภาพ ในวันที่ 19-20 ธันวาคมที่จะถึงนี้โดยมีเมียน
มาร์ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนเข้าร่วม การประชุมจะมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะ
เส้นทางคมนาคมจากภาคเหนือสู่ภาคใต้และภาคตะวันออกสู่ตะวันตก อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพการใช้ถนน
หมายเลข 8-12 และถนนสาย R3A ในการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคให้มากขึ้น ซึ่งความสําคัญอยู่ที่การ
ปรับปรุงกฎระเบียบในการขนส่งสินค้าให้สะดวกขึ้น หรือ One Stop Inspection เพื่อลดขั้นตอนศุลกากรให้
คล่องตัว

       การประชุมครั้งนี้เตรียมพิจารณาโครงการราว 92 แห่งที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจากทั้งหมด 215 
โครงการ ในงบประมาณทั้งสิ้น 5.15 หมื่นล้านดอลลาร์โดยการลงทุนส่วนใหญ่เน้นการพัฒนาใน 10 ด้าน ได้แก่
1.คมนาคม 2.พลังงาน 3.เกษตร 4.สิ่งแวดล้อม 5.พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 6.การพัฒนาสู่ความเป็นเมือง 7.การ
ท่องเที่ยว 8.การส่งเสริมการค้า 9.การสื่อสาร และ 10.เทคโนโลยีสารสนเทศ
 

       รัฐบาลไทยยังเตรียมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือก่อสร้าง รถไฟทางคู่ขนาด 1.435 
เมตร ความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางหนองคายนครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 
กิโลเมตร และเส้นทางแก่งคอยกรุงเทพฯ ระยะทาง 133 กิโลเมตร กับจีน ในระหว่างการประชุมครั้งนี้จะส่งผล
ใน ทิศทางบวก จากอานิสงส์ของความสัมพันธ์ไทย-จีนที่มีมายาวนาน และจะครบรอบ 40 ปีในปี 2558 นี้

       ด้วยโอกาสและความท้าทายต่อภูมิภาคอาเซียนที่กําลังเผชิญ เสมือนเป็นแรง ผลักดันให้ก้าวสู่เวทีการค้าโลกได้แต่พันธมิตรที่เข้ามาขยายการค้าในเอเชียอาคเนย์อย่างจีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่นยังมีความขัดแย้งคุกรุ่นกันอยู่  หากอาเซียน ไม่แข็งแกร่งและเป็นหนึ่งเดียวกันเท่าที่ควร อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของความบาดหมางของชาติเอเชียตะวันออก และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในอนาคต

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  ประชาชาติธุรกิจ
 

Editor
ชม 2,029 ครั้ง
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง


สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน Developed By Upbean ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการให้บริการ