ลบ
แก้ไข
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์มีกําหนดจะนําผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2558 ณ เมืองโกตาบารูรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
นางอภิรดีตันตราภรณ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีสําคัญที่ อาเซียนจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 โดยในเสาเศรษฐกิจได้เร่งดําเนิน มาตรการต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อให้เสร็จทันตามกําหนดเวลา ซึ่งในปีนี้ยังมีอีกหลายมาตรการสําคัญที่มีผล ต่อการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน และมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพการประชุมอาเซียน พร้อมผลักดัน ให้อาเซียนสามารถดําเนินมาตรการต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามกําหนดเวลาภายใต้ Theme “Our People, Our Community, Our Vision”
นางอภิรดีกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพบหารือของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งแรก ของปีนี้โดยมีประเด็นหลักๆ ที่จะหารือ ได้แก่ การเร่งรัดดําเนินมาตรการตามแผนงานการจัดตั้ง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เสร็จได้ทันภายในสิ้นปีนี้แนวทางการลดเลิกมาตรการที่มิใช่ภาษีซึ่งมี ความสําคัญต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยในระหว่างการประชุมจะมีการพบหารือ กับผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่ภาคเอกชนต้องการให้ แก้ไขด้วย รวมทั้งจะมีการหารือวิสัยทัศน์ในการก้าวไปข้างหน้าของอาเซียน ภายหลังปี 2558 โดยจะ มุ่งหวังให้การรวมตัวทางเศรษฐกิจมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งรักษาความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องสําคัญที่ทั่วโลกจับตามอง คือการเจรจาความตกลงหุ้นส่วน เศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือเรียกว่า “RCEP” หรือ ASEAN+6 FTA (ระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดีย) ซึ่ง หากเจรจาได้สําเร็จจะทําให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้าและการลงทุน การปรับประสาน กฎว่าด้วยถิ่นกําเนิดสินค้าให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะอํานวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของ ภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลงที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยประเด็นหลักของการเจรจา ได้แก่ การค้าสินค้า บริการและการลงทุน และมีเป้าหมายคาดว่าจะสรุปการเจรจาได้ภายในสิ้นปีนี้
ปัจจุบัน อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยการค้าของไทยกับอาเซียนในปี 2557 มีมูลค่า ประมาณ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 22 ของการค้าไทยกับทั่วโลก ทั้งนี้ตลาดส่งออกและ แหล่งนําเข้าสําคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่มาเลเซียสิงคโปร์อินโดนีเซียเวียดนามและฟิลิปปินส์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ASTV ผู้จัดการรายวัน
การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์มีกําหนดจะนําผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2558 ณ เมืองโกตาบารูรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
นางอภิรดีตันตราภรณ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีสําคัญที่ อาเซียนจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 โดยในเสาเศรษฐกิจได้เร่งดําเนิน มาตรการต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อให้เสร็จทันตามกําหนดเวลา ซึ่งในปีนี้ยังมีอีกหลายมาตรการสําคัญที่มีผล ต่อการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน และมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพการประชุมอาเซียน พร้อมผลักดัน ให้อาเซียนสามารถดําเนินมาตรการต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามกําหนดเวลาภายใต้ Theme “Our People, Our Community, Our Vision”
นางอภิรดีกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพบหารือของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งแรก ของปีนี้โดยมีประเด็นหลักๆ ที่จะหารือ ได้แก่ การเร่งรัดดําเนินมาตรการตามแผนงานการจัดตั้ง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เสร็จได้ทันภายในสิ้นปีนี้แนวทางการลดเลิกมาตรการที่มิใช่ภาษีซึ่งมี ความสําคัญต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยในระหว่างการประชุมจะมีการพบหารือ กับผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่ภาคเอกชนต้องการให้ แก้ไขด้วย รวมทั้งจะมีการหารือวิสัยทัศน์ในการก้าวไปข้างหน้าของอาเซียน ภายหลังปี 2558 โดยจะ มุ่งหวังให้การรวมตัวทางเศรษฐกิจมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งรักษาความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องสําคัญที่ทั่วโลกจับตามอง คือการเจรจาความตกลงหุ้นส่วน เศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือเรียกว่า “RCEP” หรือ ASEAN+6 FTA (ระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดีย) ซึ่ง หากเจรจาได้สําเร็จจะทําให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้าและการลงทุน การปรับประสาน กฎว่าด้วยถิ่นกําเนิดสินค้าให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะอํานวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของ ภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลงที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยประเด็นหลักของการเจรจา ได้แก่ การค้าสินค้า บริการและการลงทุน และมีเป้าหมายคาดว่าจะสรุปการเจรจาได้ภายในสิ้นปีนี้
ปัจจุบัน อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยการค้าของไทยกับอาเซียนในปี 2557 มีมูลค่า ประมาณ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 22 ของการค้าไทยกับทั่วโลก ทั้งนี้ตลาดส่งออกและ แหล่งนําเข้าสําคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่มาเลเซียสิงคโปร์อินโดนีเซียเวียดนามและฟิลิปปินส์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ASTV ผู้จัดการรายวัน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
เมื่อเร็วๆ นี้ในโอกาสที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 58 ทางโรงพยาบามหาสารคาม จึงมีแผนส่งเสริมการแพทย์แผนไทยให้เจริญก้าวหน้า เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการใช้ยาแผนปัจจุบัน...by Editor
-
ข่าวสาร : ข่าวสารนิเทศ: ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (ASEAN-China Senior Officials Meeting on the Implementation of the...by Editor
-
ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งของโลกออกโรงเตืนอว่า ธารน้ำแข็งที่ยังคงเหลืออยู่ในอินโดนีเซียอาจจะละลายหายไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นาย Loonie Thompson นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน...by Editor Bow
-
ถ้าภาครัฐและเจ้า หน้าที่ภาครัฐไม่จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายทั้งการป้องกันและปราบปราม แล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่คุณภาพชีวิตของคนไทยจะลดลง ไม่ว่าผู้คนจะพูดถึงเรื่อง ASEAN กันในแง่มุมไหนก็ตาม...by Editor Bow
เรื่องมาใหม่
คำฮิต