ลบ
แก้ไข
นายยศพล พิริยะพฤนท์ ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนไทย สามารถทำกำไรได้สูงอย่างต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่สูงกว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศรวมเงินเฟ้อ (นอมินอล จีดีพี) ถึง 1.8 เท่า ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในอาเซียน ขณะที่ฟิลิปปินส์เติบโตเพียง 1.4 เท่า,อินโดนีเซีย 0.6 เท่า และมาเลเซีย 0.5 เท่า โดยบริษัทจดทะเบียนไทย สามารถกำหนดการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เข้าถึงผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างตรงจุด ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดี ทั้งด้านขนาด และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์ ปลื้ม! บริษัทจดทะเบียนไทยไรดีเยี่ยมสูงสุดในอาเซียน หลังใช้กลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมปรับแผนลุยอาเซียนมากขึ้น

นายยศพล พิริยะพฤนท์ ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนไทย สามารถทำกำไรได้สูงอย่างต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่สูงกว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศรวมเงินเฟ้อ (นอมินอล จีดีพี) ถึง 1.8 เท่า ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในอาเซียน ขณะที่ฟิลิปปินส์เติบโตเพียง 1.4 เท่า,อินโดนีเซีย 0.6 เท่า และมาเลเซีย 0.5 เท่า โดยบริษัทจดทะเบียนไทย สามารถกำหนดการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เข้าถึงผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างตรงจุด ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดี ทั้งด้านขนาด และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
สำหรับกลุ่มที่มีกลยุทธฺการดำเนินงานที่โดดเด่น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม,กลุ่มอสังหาริมทรัพย์,กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,กลุ่มการให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม โดยตั้งแต่ปี 53-57 บริษัทจดทะเบียนไทยในกลุ่มธุรกิจที่มีความโดดเด่นสูง มีอัตราการเติบโตที่สะท้อนผ่านมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) และด้านความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งการเติบโตของมาร์เก็ตแคปสูงถึง 144% จาก 1.8 ล้านล้านบาทในปี 53 เป็น 4.4 ล้านล้านบาทในปี 57 ในขณะที่ความสามารถในการทำกำไรพบว่ามีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิสูงถึง 75% จาก 117,000 ล้านบาทในปี 53 เป็น 205,000 ล้านบาทในปี 57
“ตั้งแต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 51 ธุรกิจไทยปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มทางธุรกิจ เช่น เปลี่ยนตลาดส่งออกจากเดิมที่สัดส่วนการส่งออกของไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม, ลาว, เมียนมาร์ และกัมพูชา จากปี 48 อยู่ที่ 4.3% เพิ่มขึ้นเป็น 9.1% ในปี57 ในขณะที่พึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดหลักเดิม คือ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นเริ่มมีปริมาณที่ลดลง
นอกจากนี้บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ที่ประกอบธุรกิจพลังงานทางเลือก เป็นอีกกลุ่มที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยการเล็งเห็นความต้องการของภาครัฐ ที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจพลังงานทางเลือกให้เติบโต เพื่อรองรับความต้องการทางพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอัน เนื่องมาจากการขยายตัวของเมือง และจำนวนประชากร รวมไปถึงต้องการสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเร่งการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก และปิดใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 57 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนอันดับต้นๆของกลุ่มดังกล่าวสามารถสร้างผลกำไรเติบโตสูงถึง 471%
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.bangkokbiznews.com/
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.bangkokbiznews.com/
เกี่ยวกับประเทศ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
ประเทศไทยอุดมไปด้วยทรัพยากรทางทะเลและทรัพยากรทางการประมงและมีความสามารถในการส่งออกค่อนข้างสูง ประเทศไทยจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลของอาเซียนในปี 2015...by dogTech
-
ประเทศไทยได้จัดให้มีหลักสูตรการฝึกอบรมต่างๆ สำหรับแรงงานอพยพจากประเทศกัมพูชา, ลาวและพม่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน โดยการฝึกอบรมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาทักษะให้กับแรงงานกัมพูชา,...by dogTech
-
ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเอเปก ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) ได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย (H.E. Mr. Thomas Lembong)...by dogTech
-
Posted byEditor N AEC Tourism Thai-Jun 11, 2014 1. อินโดนีเซีย สาขายานยนต์ วัตถุประสงค์สาขานำร่องนี้ คือ การดำเนินการโดยประเทศสมาชิกบนพื้นฐานการบูรณาการ...by dogTech
เรื่องมาใหม่
คำฮิต