ศุลกากรท่าลี่ พร้อมรองรับ AEC.58 หลังนักลงทุนคึกคัก



ตลาดชายแดนไทย-ลาว คึกคัก ด่าน อ.ท่าลี่ จ.เลย หลังสถานการณ์ภายในประเทศดี นักลงทุนมีความเชื่อมั่น พร้อมรองรับเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน 58 เชื่อเป็นผลดีต่อประเทศ...
 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่ด่านศุลกากรท่าลี่ จ.เลย บรรยากาศการค้าชายแดนไทยกับ สปป.ลาว เป็นไปอย่างคึกคัก ภายหลังจากนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองของไทย การค้าคงเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีมูลค้าการนำเข้า–ส่งออก ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยการขนส่งสินค้ามีความสะดวกสบาย เส้นทางคมนาคมขนส่งมีความพร้อม และสามารถเชื่อมโยงไปยังเมืองหลวงพระบางระยะทางเพียง 343 กิโลเมตร และยังสามารถเดินทางไปยังประเทศจีน ด้วยระยะทางที่สั้น ประหยัดเวลาการขนส่งได้เป็นอย่างดี พร้อมเตรียมการปรับภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่ให้บริการให้มีความทันสมัย รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58 ด้วย

นายสนธยา ดวงแข หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร ระบุว่า นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นด้านการนำเข้า-ส่งออกสินค้าต่อไทยมากขึ้น ภายหลังจากที่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร โดยการค้าทางด้านด่านศุลกากรท่าลี่ มีการขายตัวเติบโตเพิ่มมากขึ้น ประเทศลาวยังคงเป็นตลาดการค้าที่มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยจำนวนมาก และยังมีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งการสร้างถนน เขื่อน จึงส่งผลดีต่อไทยที่สามารถส่งออกสินค้าด้านวัสดุก่อสร้าง ขณะที่สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นจำพวกสินค้าทางการเกษตร ถั่วลิสง เป็นต้น

นายสนธยา กล่าวต่อว่า การค้าชายแดนด้าน จ.เลย มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมามีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 3,000 ล้านบาท โดยเฉพาะภาคการส่งออกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝั่ง สปป.ลาว มีการก่อสร้างเขื่อนไชยบูลี ระยะเวลา 8 ปี มีการสั่งสินค้าจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากมีอัตราการขยายตัวทางการค้า และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 10-30 เปอร์เซ็นต่อปี ปริมาณของรถบรรทุกสินค้าและรถส่วนบุคคล เข้า-ออก เฉลี่ยปีละ 60,000 คัน บุคคลและนักเที่ยวเข้า-ออก เฉลี่ยปีละ 200,000 คน และเพื่อให้ด่านศุลกากรท่าลี่ เป็นด่านที่มีความสะดวกสบาย ให้บริการได้อย่างรวดเร็วสามารถรองรับการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ภายหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ และส่วนการให้บริการทั้ง ตรวจคนเข้าเมือง ส่วนศุลกากรให้มีความรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำรถ X-ray Mobile มาให้ในการตรวจสอบสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมทางศุลกากร รองรับการค้า และระบบโลจิสติกส์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบด้วย.

ขอบคุณที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

โดย Editor
วันที่ 17 ตุลาคม 2557
พิมพ์หน้านี้