เว็บไซต์เวียดนามดอทเน็ต สื่อของทางเวียดนาม รายงานว่า 14 บริษัท ซึ่งหมายรวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) จาก 8 ประเทศในภูมิภาคยุโรปได้เดินทางมายังประเทศเวียดนามเพื่อวางรากฐาน และแสวงหาโอกาสการลงทุน และการส่งออกไปยังเมืองลุงโฮแห่งนี้
ทั้งนี้การเดินทางของบริษัทจากชาติตะวันตกดังกล่าวนั้น ได้รับเงินทุนจากสหภาพยุโรป (อียู)ภายใต้โครงการเครือข่ายธุรกิจอียู-เวียดนาม (อีวีบีเอ็น) โดย มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการส่งออกและ การ
ลงทุนของอียูโดยเฉพาะในธุรกิจ เอสเอ็มอีมายังเวียดนาม
รายงานระบุว่า ทางอีวีบีเอ็นได้จัดเทรดมิชชั่นทั้งในฮานอยและโฮจิมินห์เพื่อเป็นการเปิดทางให้เอสเอ็มอีจากทางยุโรป สามารถแสวงหาโอกาสในตลาดเวียดนาม และได้พบปะกับหุ้นส่วนที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้แล้ว ทางบริษัทต่างๆ ของอียูยังได้จัดการประชุมแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (บีทูบี) กับผู้นําเข้าสินค้า และผู้จัดจําหน่ายชาวเวียดนาม ซึ่งจากการเดินทางในครั้งนี้นั้น เกิดการประชุมระหว่างทั้งสองฝ่ายมากถึง 175 ครั้งเลยทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้นแล้ว ทางอีวีบีเอ็น ยังได้นําบริษัทจากยุโรปทั้ง 14 แห่ง ลง พื้นที่ในจุดที่มีการซื้อขายสินค้าด้วย ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซีและกูรเมต์อันนัม
ในวันเดียวกัน แม้ว่าจะมีรายงานว่าทางเอสเอ็มอียุโรปสนใจที่จะเจาะตลาดเข้าไปในประเทศเวียดนาม ขณะเดียวกันมีรายงานสํานักงานสถิติกลางของเวียดนาม
ที่เปิดเผยว่า ธุรกิจเวียดนามเกือบ 1.1 หมื่นแห่งนั้นต้องปิดกิจการ หรือระงับการดําเนินงานชั่วคราวในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนับว่าสูงกว่าปีที่แล้วถึง 23%
ในรายละเอียดพบว่าจํานวนของธุรกิจที่ต้องปิดกิจการนั้นอยู่ที่ 993 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ในจํานวนนี้นั้นเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งมีเงินทุนอยู่ในระดับที่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านด่อง (ราว 15 ล้านบาท) ขณะที่ธุรกิจอีกมากกว่า 9,700 แห่งนั้น หยุดดําเนินการชั่วคราว
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากทางการเวียดนามยังพบด้วยว่า มีธุรกิจตั้งใหม่ในช่วงเดือนที่แล้วเพียง 6,900 แห่ง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าปีที่แล้ว 27%
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นสพ.โพสต์ทูเดย์