เวียดนามจ่อสกัดลงทุนสิ่งทอ
 


         รายงานข่าวจากเว็บไซต์เวียดนามเน็ต บริดจ์ ระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นของเวียดนามจะพิจารณาเพิ่มกิจการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปในรายการกิจการที่จะต้องมี เงื่อนไขในการลงทุน และจะมีการจำกัดการลงทุนอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ นายโบง็อคทู ผู้อำนวยการฝ่ายการวางแผนและการลงทุนของจังหวัดดองไนกล่าวว่า โครงการอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะได้รับอนุญาตการลงทุนเมื่อมีการตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรม และจะต้องมีการลงทุนด้านการจำกัดน้ าเสียอย่างถูกต้อง
 
        ขณะที่ จังหวัดบินห์เซือง ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม และอยู่ทางด้านเหนือของโฮจิมินห์ ซิตี้ ระบุว่า ปัจจุบันไม่มีโรงงานสิ่งทอดำเนินกิจการอยู่ในพื้นที่ แต่มีเฉพาะโรงงานผลิตเสื้อผ้าเท่านั้น และมองว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนำประโยชน์และสร้างมูลค่าให้กับท้องถิ่นน้อยกว่าสิ่งแวดล้อมที่ต้องเสียไป
 
        ด้านจังหวัดไหเซือง เป็นจังหวัดล่าสุดในเวียดนามที่แสดงท่าทีจะทบทวนการลงทุนของโครงการในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าเช่นกัน โดยขณะนี้ฝ่ายบริหารของจังหวัด ตัดสินใจหยุดดึงดูดทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม 6 กลุ่มในพื้นที่ชั่วคราว ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าด้วย
 
        นายวัลลภ วิตนากร ประธานบริษัท ไฮ-เทค แอพพาเรล กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่เวียดนามจะเลิกดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งทุกประเทศย่อมต้องการอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีนวัตกรรม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ คล้ายกับประเทศไทยที่ปัจจุบันไม่ส่งเสริมกิจการที่ใช้แรงงานเข้มข้นแล้ว

 
       
 
       อย่างไรก็ตามในสายตาของนักลงทุนไทยยังมองว่าเวียดนามเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ และยังน่าเข้าไปลงทุนอยู่ เนื่องจากขณะนี้เวียดนามอยู่ระหว่างการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรป (อียู) และการเจรจาเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) ที่มีสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมอยู่ ซึ่งทั้งสองตลาดนั้นเป็นตลาดส่งออกเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นจึงจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในอนาคตอย่างมาก ส่วนประเด็นที่ภาครัฐจะไม่ส่งเสริมการลงทุนนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจมากนัก เพราะการลงทุนในเวียดนามไม่ได้มีเรื่องสิทธิประโยชน์ภายในประเทศเป็นปัจจัยหลัก
 
        "นักลงทุนไทยตัดสินใจไปลงทุนในเวียดนาม เนื่องจากมีแรงงานมาก ต้นทุนค่าแรงต่ำ และมีสิทธิประโยชน์ที่ได้จากตลาดส่งออกหลัก" นายวัลลภ กล่าว
        
        ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนในเวียดนามส่วนใหญ่ลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ โฮจิมินห์และภาคกลาง โดยนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นนิคมฯ ธรรมดา ไม่มีนิคมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มโดยเฉพาะ เพียงแต่โรงงานอุตสาหกรรมในนิคมฯ ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ทั้งจากจีน ไต้หวัน เกาหลี ฮ่องกง และเวียดนาม
 
       อย่างไรก็ตาม ท่าทีล่าสุดของเวียดนามอาจส่งผลกระทบนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้าไปลงทุน แต่ไม่น่ากระทบนักลงทุนรายเก่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :  โพสต์ทูเดย์
โดย Editor
วันที่ 13 มีนาคม 2558
พิมพ์หน้านี้